รวมแนวข้อสอบกรมป่า พร้อมเฉลย
พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันใด
ก. ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๔ ค. ๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๔
ข. ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๕ ง. ๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๕
ตอบ ข. ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๕
มาตรา ๒ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๕เป็นต้นไป
ข้อใดคือ “ไม้ไหลลอย”
ก.บรรดาของที่อยู่ในป่าตามธรรมชาติ
ข.ไม้ที่ได้แปรรูปแล้วแต่ไม่หมายถึงไม้ที่ได้ทำเป็นเครื่องใช้หรือสิ่งของอื่นหรือประกอบ เข้ากับเครื่องใช้หรือสิ่งของอื่นแล้ว
ค.ไม้ต้น ไม้ซุง ไม้ท่อน ไม้เสา ไม้เข็ม ไม้หลัก ไม้เหลี่ยม ไม้กระดาน ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม ที่ได้ไหลลอยโดยปราศจากการควบคุม
ง.ไม้สักและไม้อื่นทุกชนิด ที่เป็นต้น เป็นกอ เป็นเถา รวมตลอดถึงไม้ไผ่ทุกชนิด ปาล์ม หวาย ตลอดจนราก ปุ่ม ตอ เศษปลายและกิ่งของสิ่งนั้นๆไม่ว่าจะได้ถูกตัดตอนเลื่อยผ่าถากขุดหรือกระทำโดยประการอื่นใด
ตอบ ค. ไม้ต้น ไม้ซุง ไม้ท่อน ไม้เสา ไม้เข็ม ไม้หลัก ไม้เหลี่ยม ไม้กระดาน ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม ที่ได้ไหลลอยโดยปราศจากการควบคุม
“ของป่า” หมายความว่าอย่างไร
ก.บรรดาของที่คนทำตกหล่นอยู่ในป่า
ข.บรรดาของที่อยู่ในป่าตามธรรมชาติ
ค.บรรดาของที่อยู่ในป่าที่คนสร้างไว้
ง.ที่ดินที่ยังมิได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมายที่ดิน
ตอบ ข. บรรดาของที่อยู่ในป่าตามธรรมชาติ
ข้อใด ไม่ใช่ ของป่า
ก.รังนก ค. แร่
ข.ยางไม้ ง. เป็นของป่าทุกข้อ
ตอบ ง. เป็นของป่าทุกข้อ
“ของป่า” หมายความว่า บรรดาของที่อยู่ในป่าตามธรรมชาติ คือ
ไม้ รวมทั้งส่วนต่าง ๆ ของไม้ ถ่าน น้ำมันไม้ ยางไม้ ตลอดจน สิ่งอื่น ๆ ซึ่งเกิดจากไม้
พืชต่าง ๆ ตลอดจนสิ่งอื่น ๆ ซึ่งเกิดจากพืชนั้น
รังนก ครั่ง รวงผึ้ง น้ำผึ้ง มูลค้างคาว
เงินค่าธรรมเนียมซึ่งผู้ทำไม้หรือเก็บหาของป่าจะต้องเสียตามความในพระราชบัญญัตินี้ คืออะไร
กเงินภาษี ค. เงินได้
ข.ค่าภาคหลวง ง. เงินภาคหลวง
ตอบ ข.ค่าภาคหลวง
“ค่าภาคหลวง“หมายความว่าเงินค่าธรรมเนียมซึ่งผู้ทำไม้หรือเก็บหาของป่าจะต้องเสียตามความในพระราชบัญญัตินี้
ห้ามมิให้ผู้รับอนุญาตทำไม้ที่ไม่มีรอยตราอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ประทับไว้เว้นแต่จะได้มีข้อความระบุอนุญาตไว้ในใบอนุญาต ถูกกล่าวไว้ในมาตราใด
ก.มาตรา 10 ค. มาตรา 12
ข.มาตรา 8 ง. มาตรา 16
ตอบ ค. มาตรา 12
มาตรา๑๒ห้ามมิให้ผู้รับอนุญาตทำไม้ที่ไม่มีรอยตราอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ประทับไว้เว้นแต่จะได้มีข้อความระบุอนุญาตไว้ในใบอนุญาต
กรณีผู้รับอนุญาตทำไม้ต้องเสียค่าภาคหลวงตามที่กำหนดไว้ ข้อใด ไม่ถูกต้อง
ก.ต้องชำระค่าภาคหลวงล่วงหน้าท่อนหรือต้นละ 50 สตางค์เมื่อรับใบอนุญาต
ข.ต้องชำระค่าภาคหลวงให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด 30 วันนับแต่วันที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งจำนวนค่าภาคหลวงสำหรับไม้นั้นให้ทราบ
ค.ต้องชำระค่าภาคหลวงให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด 60 วันนับแต่วันที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งจำนวนค่าภาคหลวงสำหรับไม้นั้นให้ทราบ
ง.ถ้าผู้รับอนุญาตไม่ชำระค่าภาคหลวงให้เสร็จสิ้น ภายในกำหนดเวลา ให้ไม้นั้นตกเป็นของแผ่นดิน
ตอบ ค.ต้องชำระค่าภาคหลวงให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด 60 วันนับแต่วันที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง
จำนวนค่าภาคหลวงสำหรับไม้นั้นให้ทราบ
1. ข้อใดคือเว็ปไซด์ของกรมป่าไม้
ก. www.sso.go.th ค. www.fish.go.th
ข. http:// www.forest.go.th ง. http:// www. customs.go.th
ตอบ ข. www.forest.go.th
2. อธิบดีกรมป่าไม้คนแรกคือใคร
ก. นายถนอม เปรมรัศมี ค. มร.เอช. เอ. เสลด
ข. นายเทียม คมกฤส ง. มร.ดับลิว. เอฟ. ลอยด์
ตอบ ค. มร.เอช. เอ. เสลด ( เป็นเจ้ากรมป่าไม้ 2439 – 2444 )
3. อธิบดีกรมป่าไม้คนปัจจุบันคือใคร
ก. นายพงศ์ โสโน ค. นายถนอม เปรมรัศมี
ข. นายชลธิศ สุรัสวดี ง. นายสุวิทย์ รัตนมณี
ตอบ ง. นายสุวิทย์ รัตนมณี
4. ปัจจุบันรองอธิบดีกรมป่าไม้มีกี่คน
ก. 1 คน ค. 3 คน
ข. 2 คน ง. 4 คน
ตอบ ค. 3 คน คือ
1. นายชลธิศ สุรัสวดี รองอธิบดี
2. นายประยุทธ หล่อสุวรรณศิริ รองอธิบดี
3. ดร.วิฑูรย์ ชลายนนาวิน รองอธิบดี
5. กรมป่าไม้ก่อตั้งขึ้นเมื่อใด
ก. 17 กันยายน พ.ศ. 2439 ค.19 กันยายน พ.ศ. 2439
ข. 18 กันยายน พ.ศ. 2439 ง. 20 กันยายน พ.ศ. 2439
ตอบ ข. 18 กันยายน พ.ศ. 2439
6. กรมป่าไม้ก่อตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่เท่าใด
ก. รัชกาลที่ 4 ค. รัชกาลที่ 6
ข. รัชกาลที่ 5 ง. รัชกาลที่ 7
ตอบ ข. รัชกาลที่ 5 ( พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว )
7. ข้อใดคือชื่อภาษาอังกฤษกรมป่าไม้
ก. Department of Labour Protection and Welfare
ข. Department of Fisheries
ค. The Customs Department
ง. Royal Forest Department
ตอบ ง. Royal Forest Department
8. กรมป่าไม้ ไม่เคยสังกัดกระทรวงใด
ก. กระทรวงมหาดไทย
ข. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ค. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ง. กระทรวงการคลัง
ตอบ ง. กระทรวงการคลัง
9. กรมป่าไม้ตั้งอยู่ที่เขตใดของกรุงเทพมหานคร
ก. มีนบุรี ค. คลองเตย
ข. ลาดพร้าว ง. จตุจักร
ตอบ ง. จตุจักร
10. ข้อใดคือวิสัยทัศน์ของกรมป่าไม้
ก. เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ
ข. เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน
ค. เป็นหน่วยงานหลักที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำในการรักษาทรัพยากรป่าไม้ เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน
ง. เป็นหน่วยงานหลักมุ่งมั่นให้บริการที่เป็นเลิศ มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ
ตอบ ก. เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ
11. ข้อใดคือ ไม่ใช่ พันธกิจของกรมป่าไม้
ก. ป้องกันรักษาป่า
ข. ส่งเสริมการปลูกป่าในเชิงเศรษฐกิจ
ค. วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการจัดการ และใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้
ง. เป็นพันธกิจของกรมป่าไม้ทุกข้อ
ตอบ ง. เป็นพันธกิจของกรมป่าไม้ทุกข้อ
12. ข้อใด ไม่ใช่ ค่านิยมหลักของกรมป่าไม้
ก. มีความรับผิดชอบ ค. การมีน้ำใจช่วยเหลือ
ข. การเปิดใจกว้าง ง. การปฏิบัติงานอย่างชาญฉลาด
ตอบ ค. การมีน้ำใจช่วยเหลือ